


LOPBURI FULL DAY TOUR
วันเดียวเที่ยวครบลพบุรี
จองเลยวันนี้ ราคารวมรถ VIP+ไกด์
อาหาร 2 มื้อ จอง 6 ท่านขึ้นไป / คนละ 1200 บาท
วันเดียวเที่ยวครบกับการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบที่จังหวัดลพบุรี
เที่ยวเมืองเก่าลพบุรี วัดพระศรีมหาธาตุ พระนารายณ์ราชนิเวศน์
บ้านวิชาเยนทร์ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด ทุ่งทานตะวัน
หรือ ทุ่งดอกไม้ที่กระเพราะคอฟฟี่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำตกวังก้านเหลือง
บางขันหมาก
Bangkhunmark .com
เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ตำบลบางขันหมาก และจังหวัดลพบุรี


สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี
สนับสนุนข้อมูล
เขาสนามเเจง เขาวงกต
จังหวัดลพบุรี


วัดเขาวงกฎ
ตั้งอยู่ที่เขาสนามแจง ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีพื้นที่บริเวณวัดประมาณ ๕๐ ไร่ อยู่ในวงล้อมของเขาทั้ง ๓ ด้าน เป็นลักษณะหุบเขาเปิด ด้านช่องเขาเปิดอยู่ทางทิศตะวันออกเป็นทางเข้าวัด ตั้งอยู่ห่างจากตลาดบ้านหมี่ประมาณ ๒ กิโลเมตร


วัดเขาวงกฎ เดิมตามตำนานเมืองลพบุรีเป็นวัดที่พระยาแกรกได้สร้างไว้เพื่อฉลองชัยชนะที่ปราบท้าวโคตบอง วัดนี้เจริญรุ่งเรืองมานานเท่าไรอยู่ในหุบเขานี้ไม่ปรากฏ เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐-๒๔๖๕ หลวงพ่อเพา พุทฺธสโร มาพบเข้าอยู่ในลักษณะของสำนักสงฆ์ ท่านเห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะแก่การอบรมสมถกัมมัฏฐาน และการเจริญวิปัสสนากัมมัฏฐานมาก จึงได้บูรณะก่อสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้เป็นวัดโดยสมบูรณ์แบบต่อไป และได้สร้างเรือสำเภาทรงเจดีย์ไว้ โดยให้ชื่อสำเภานี้ว่า “นาวามรรคสัจ” เป็นสัญลักษณ์ของท่าน โดยหมายถึงเรือที่ใช้ขนหมู่ชนเพื่อที่จะข้ามห้วงน้ำใหญ่ทั้ง ๔ ได้ ด้านหัวเรือและท้ายเรือสร้างเป็นที่อยู่พระภิกษุสามเณร กลางเรือสร้างเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ฐานเจดีย์เป็นห้องพักอยู่อาศัย ชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองไว้ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของพุทธมหาชน
สิ่งก่อสร้างอื่นๆอีก ขณะที่ท่านจำพรรษาที่วัดเขาวงกฏได้ประกอบหิตานุหิตประโยชน์เกื้อกูลแก่เหล่าบรรดาพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา คณะศิษย์ทั้งหลาย รวมทั้งหมู่ชนที่ผ่านไปมาก็ได้แผ่เมตตาปกคลุมไปถึง ปฏิปทาของหลวงพ่อท่านที่พึงเห็นได้ชัด เช่นการแสดงธรรมให้ชนทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในศีลในธรรมเป็นพุทธศาสนิกชนในทางที่ถูกที่ควร และการวางกฎระเบียบแบบแผนต่างๆของวัดเขาวงกฏ เป็นต้น วัดเขาวงกฏในสมัยนั้นเป็นที่รู้จักกันมาก “วัดเขาวงกฏมีกฎระเบียบที่เข้มงวด ตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมพระวินัยมาก” การรักษาประพฤติปฏิบัติในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดของหลวงพ่อเพา และการอบรมพระภิกษุ สามเณร อุบาสิกาที่อาศัยอยู่ให้เป็นผู้ที่มีความสำรวม มักน้อยสันโดษ จนเป็นที่เคารพนับถือของเหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งหลายเป็นอันมาก และคฤหัสถ์ในขณะนั้นอย่างกว้างขวาง พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พระอาจารย์ใหญ่พระธุดงค์กัมมัฏฐานสายธรรมยุตยังได้กล่าวว่า “พระอาจารย์เพา พุทฺธสโร วัดเขาวงกฏเป็นพระแท้องค์หนึ่ง” ซึ่งจะไม่ค่อยได้ยินพระอาจารย์มั่น ออกปากชมพระภิกษุองค์ไหนๆ


เมื่อหลวงพ่อเพามาตอนแรกท่านจำพรรษาอยู่ในถ้ำคูหาสวรรค์ ที่เชิงเขาด้านทิศเหนือ ต่อมากรมพระนครสวรรค์ พระองค์เจ้าบริพัตร สุขุมพันธ์เสด็จมาที่วัดเขาวงกฏได้พบหลวงพ่อเพาที่ ถ้ำคูหาสวรรค์ ทรงเลื่อมใสในปฏิปทาและแนวทางในการปฏิบัติของหลวงพ่อ จึงได้ถวายปัจจัยเพื่อก่อสร้างวัดเป็นจำนวน ๑,๐๐๐ บาท ซึ่งต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๗๐ หลวงพ่อเพาท่านได้สร้างกุฏิขึ้นหน้าถ้ำคูหาสวรรค์ให้ชื่อว่า “ตึกบริพัตร”ใช้ชื่อตามนามของผู้บริจาคและหลวงพ่อเพาได้จำพรรษาอยู่ที่ตึกบริพัตรนี้ตลอดมา จนถึง พ.ศ.๒๔๗๔
ตั้งแต่หลวงพ่อเพาท่านได้สร้างวัดนี้ขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้มีอายุประมาณ ๙๐ ปี มีเจ้าอาวาสผู้บริหารดูแลภายในวัดเขาวงกฏนี้ ๓ รูปคือ
๑) พระอธิการวัน คารโว - ตั้งแต่ หลวงพ่อเพา เป็นประธานสงฆ์ จนถึง พ.ศ.๒๔๙๖
๒) พระครูประยุตธรรมคุณ - ตั้งแต่ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖ ถึง มกราคม ๒๕๔๘
๓) พระครูสมุห์ธเนศ สุเมธโส - ตั้งแต่ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ถึงปัจจุบัน


กราบ พระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน ยาว ๓๒ ศอก สูง ๘ ศอก สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ในสมัยพระอธิการวัน แล้วเสร็จในสมัยพระครูประยุตธรรมคุณ วิหารครอบองค์พระสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๗ โดยเจ้าจอมเรียมเจ้าจอมในรัชกาลที่ ๕
กราบขอพร หลวงพ่อเจริญ ติสฺสวณฺโณ (แสงพิภพ) เกิดเมื่อวันพุธขึ้น ๑๑ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๖ ที่ตำบลวัดพระยาไกร ยานนาวา กรุงเทพฯ บวชใหม่ ในวันเสาร์ที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๖ เวลา ๑๔.๓๐ น. ณ วัดกุฎีประสิทธิ์ ตำบลลำไซ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๐๐ หลวงพ่อได้ธุดงค์ผ่านมาถึงที่วัดเขาวงกฏ ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี จึงได้แวะพักที่วัดนี้ โดยเข้ามาขออาศัยพักพอให้หายเหนื่อยสักสามวัน เมื่อครบกำหนดจะก็ออกเดินธุดงค์ต่อไป แต่เจ้าอาวาสขณะนั้น พระครูประยุตธรรมคุณได้เห็นปฏิปทาและคุณธรรมของหลวงพ่อ จึงได้ขอนิมนต์ให้หลวงพ่อเจริญพักอาศัยที่วัดเขาวงกฏนี้ โดยรับภาระอุปัฏฐากหลวงพ่อมิให้เดือดร้อน หลวงพ่อก็ได้จำพรรษาที่วัดเขาวงกฏนี้เรื่อยมา แต่ท่านรักความสงบ เจริญสมถวิปัสสนาอยู่ในกุฏิของท่านเงียบๆ มิค่อยได้ออกปรากฏตัวบ่อยนัก
เมื่อหลวงพ่ออายุได้ประมาณ ๘๐ ปี ในคืนวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๖ เวลาประมาณตีสอง พระภิกษุสมานได้นำหลวงพ่อไปที่วัดบางเสาธง บริเวณสามแยกไฟฉาย จังหวัดธนบุรี หลวงพ่อพักจำอยู่วัดบางเสาธงได้เพียง ๑ เดือนกับ ๖ วันก็มรณภาพในวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๖ สิริอายุรวมได้ ๘๐ ปี ๒ เดือน ๑๙ วัน
เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๕ คุณแม่ทองหล่อและอาจารย์พัชราภรณ์ ได้สอบถามติดตามหาศพหลวงพ่อเจริญ โดยความอนุเคราะห์ของ พ.ต.อ.ณรงค์วิช ไทยทอง ( ผู้กำกับการ ๒ กองปราบปรามสามยอดในขณะนั้น ) ได้อัญเชิญศพหลวงพ่อมาฝากไว้ที่ หลวงปู่ พระครูประยุตธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาวงกฏ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๒๕ โดยจัดให้ประดิษฐานอยู่ในที่สมควร ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงปู่ พระครูประยุตธรรมคุณพร้อมด้วยสาธุชนทั้งหลายได้จัดสร้างปราสาทตรีมุขเพื่อไว้เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเจริญ เพื่อความสะดวกในการเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วๆไป
ในบริเวณวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของวัดซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของอำเภอบ้านหมี่ คือ ค้างคาว ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดเขาวงกฏ เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. หมู่ค้างคาวหนูนับล้านตัวจะบินออกจากถ้ำเพื่อออกหากินเป็นสายสีดำยาวออกจากปากถ้ำไปในท้องฟ้า ทอดเป็นแนวยาวเหมือนควันดำที่ลอยออกจาก ปล่องเลื้อยอยู่บนท้องฟ้า และกลับเข้าถ้ำประมาณเวลา ตี ๕ ถึง ๖ โมงเช้าของทุกวันเป็นอย่างนี้เรื่อยมา ซึ่งนับว่าเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปสักการะและเยี่ยมชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 ถึง 17.00 น.