


LOPBURI FULL DAY TOUR
วันเดียวเที่ยวครบลพบุรี
จองเลยวันนี้ ราคารวมรถ VIP+ไกด์
อาหาร 2 มื้อ จอง 6 ท่านขึ้นไป / คนละ 1200 บาท
วันเดียวเที่ยวครบกับการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบที่จังหวัดลพบุรี
เที่ยวเมืองเก่าลพบุรี วัดพระศรีมหาธาตุ พระนารายณ์ราชนิเวศน์
บ้านวิชาเยนทร์ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด ทุ่งทานตะวัน
หรือ ทุ่งดอกไม้ที่กระเพราะคอฟฟี่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ น้ำตกวังก้านเหลือง
บางขันหมาก
Bangkhunmark .com
เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ตำบลบางขันหมาก และจังหวัดลพบุรี




จอมพลแปลก พิบูลสงคราม
วีรบุรุษของชาวลพบุรี

จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีนามเดิมว่า แปลก ขิตตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2440 จบการศึกษาโรงเรียนนายร้อย ทหารปืนใหญ่ และเดินทางไปศึกษาวิชาการทหารปืนใหญ่เพิ่มเติมที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดินทางกลับมาได้ร่วมกับคณะราษฏรทำการ เปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีบทบาทอย่างสูงในการอภิวัฒน์ (Reforn) สังคมไทยให้มีความทันสมัยพ้นจาก สภาพความล้าหลัง


จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการ เช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี

จอมพล ป. พิบูลสงคราม หรือจอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งครั้งแรกระหว่าง พ.ศ. 2481-2487 และครั้งที่ 2 ระหว่าง 2491-2500 จอมพล ป. พิบูลสงครามมีบทบาทการเมืองไทยที่สำคัญทั้ง 2 สมัยและเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย การอภิวัฒน์สังคมไทยตามแนวดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะใช้นโยบายชาตินิยม เข้ามาประสานความร่วมมือจากประชาชน อาทิ ส่งเสริมกิจกรรมของกองทัพ ส่งเสริมความเป็นชนชาติไทย เน้นนโยบายเศรษฐกิจแบบไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ประกาศรัฐนิยมเพื่อปฏิวัติวัฒนธรรมของสังคมไทยเสียใหม่เช่น เรื่องภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ การกินอยู่ การดนตรี การละเล่น การแต่งกาย คตินิยม เป็นต้น ดังนั้นจึงถือว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ที่สุดของไทย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จอมพล ป. ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทย ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการประคับประคองประเทศชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้หลายประการ โดยเป็นจอมพลคนแรกของประเทศไทยอีกด้วย เมื่อขอพระราชทานยศให้กับตนเอง ทั้งนี้มีการบอกเล่ากันว่า เพราะท่านต้องการทำสงครามจิตวิทยากับทางกองทัพญี่ปุ่น และเมื่อหลังสงครามโลกแล้ว ท่านต้องติดคุกในฐานะอาชญากรสงคราม และยุติบทบาททางการเมืองทั้งหมด โดยกลับไปอยู่บ้านที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยทำไร่ถั่วฝักยาว แต่แล้วด้วยความผกผันทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2491 ท่านก็ได้หวนกลับมาคืนสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้งจากการทำรัฐประหารของกลุ่มนายทหารที่นับถือท่านอยู่ ซึ่งคราวนี้ดำรงตำแหน่งยาวนานถึง 9 ปี ผ่านวิกฤตและเหตุการณ์กบฏจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้ง เช่น กบฏเสนาธิการ, กบฏวังหลวง, กบฏแมนฮัตตัน รวมทั้งยังเคยยึดอำนาจตัวเองด้วย จึงได้รับฉายาว่า "นายกฯ ตลอดกาล"
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้รับอีกฉายาว่า "จอมพลกระดูกเหล็ก" เพราะมีชีวิตทางการเมืองอย่างเหลือเชื่อ เคยถูกลอบสังหารมาแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็รอดชีวิตมาได้ทุกครั้ง แม้กระทั่งในเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตัน ที่ท่านถูกจี้ลงเรือศรีอยุธยา ถูกทิ้งระเบิดผ่านเตียงที่ท่านเคยนอนอยู่อย่างเฉียดฉิว ทั้ง ๆ ที่เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนับร้อย จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของท่าน คือ ในเย็นวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 เมื่อถูกพลเอกสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายทหารรุ่นน้องอีกคนหนึ่งที่ท่านไว้ใจและมอบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกให้กระทำการรัฐประหาร ซึ่งท่านได้หลบหนีไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับผู้ติดตามเพียง 2 คน โดยผ่านไปทางประเทศกัมพูชา ก่อนจะลี้ภัยทางการเมืองที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ที่นั่น ท่านและครอบครัวได้รับการต้อนรับอย่างดี ทั้งนี้เพราะทางญี่ปุ่นถือว่าเป็นท่านเป็นผู้ที่บุญคุณต่อญี่ปุ่น เพราะเป็นผู้ยินยอมให้ทหารญี่ปุ่นผ่านเข้าประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วยดี ไม่ต้องมีการสู้รบยืดเยื้ออันรังแต่จะทำให้มีแต่ความสูญเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งท่านก็ได้พำนักอยู่ที่นั่นจนตราบถึงแก่อนิจกรรม
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่เมืองลพบุรีหลายประการเช่น การวางผังเมืองลพบุรีตามแบบยุโรป ( ปัจจุบันผังเมืองแบบวงเวียนคงมีเหลือให้เห็นที่เมืองลพบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ) การสร้างเมืองลพบุรีให้เป็นเมืองทหาร สร้างนิคมสร้างตนเอง เป็นต้น ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรีจึงให้การยอมรับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ว่าเป็นวีรบุรุษของชาวลพบุรี